การจัดการศึกษาไทยตามแนวพุทธศาสนา
หลักการ
1. ชีวิตมนุษย์เป็นเพียงภพหนึ่ง หรือช่วงหนึ่งของกระบวนการชีวิตที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลาของจิต ซึ่งจิตจะผลักดันชีวิตให้ดำเนินไปตามอวิชชา > ตัณหา > กิเลส > กรรม > วิบาก > แล้วก็ย้อนไปสร้างกิเลส กรรม วิบากต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด
2. ความเป็นไปแห่งชีวิตมนุษย์ ขึ้นอยู่กับการกระทำที่เกิดจากเจตนาของตัวมนุษย์เองทั้งในอดีต และปัจจุบัน (กรรมเก่ากรรมใหม่) รวมทั้งจิตที่ยังมีอวิชชา ตัณหาอยู่
3. ทุกสรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมไป ไม่มีสิ่งใดคงที่ ไม่มีอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลง ในโลกล้วนไม่มีความจริง เป็นเพียงมายาภาพที่เกิดจากจิตของมนุษย์ที่เข้าไปปรุงแต่งเท่านั้น การเข้าไปเกี่ยวข้องโดยไม่มีสติ และปัญญาดีพอ จะทำให้เกิดผลเสียหายต่อตัวเองและสังคมอย่างกว้างขวาง
4. จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของชีวิต ควรหาทางไม่ให้มาเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่าง ๆอีก คือ ตัดวงจรชีวิต หรือยุติกระบวนการสืบต่อเนื่องของจิตให้ได้
5. ชีวิตที่ถูกต้อง คือ ชีวิตที่พยายามฝึกอบรมจิตใจให้มีสติปัญญามากขึ้น จนจิตสามารถรู้เท่าทันทุกสิ่งตามความเป็นจริง ยอมรับความเป็นจริงนั้น ไม่ฝืนความจริง ฝึกทำจิตใจให้เป็นกลาง ไม่บังคับปรุงแต่งจิตให้คิดแต่เรื่องดีๆ หรือบังคับจิตให้หลบหนีความจริงที่ประสบ หรือไม่ปล่อยจิตใจให้ไหลตามอารมณ์ของกิเลส ตัณหา พยายามเฝ้าดูจิต สังเกตจิตจนเข้าใจได้ว่า ที่เรามีทุกข์ มีปัญหาก็เพราะเมื่อเวลาจิตคิดอะไร รู้สึกอะไร เรามักเข้าไปช่วยมันคิด หรือปรุงแต่ง แต่ถ้าเราไม่เข้าไปช่วยมันคิด หรือปรุงแต่ง ไม่ช้าสิ่งที่เกิดขึ้นกับจิต ก็จะดับไปเองในไม่ช้า
6. มนุษย์สามารถฝึกฝนสติ ปัญญาได้ด้วยตนเองจากความรู้ที่ได้รับการแนะนำจากผู้รู้ (สุตามยปัญญา) หรือจากการคิดพิจารณาไตร่ตรองทุกสิ่งที่ประสบด้วยโยนิโสมนสิการ(จินตามยปัญญา) และจากการสร้างสถานการณ์ของตัวเองที่ทำให้เกิดความกลัวต่างๆ เช่น กลัวตาย กลัวชีวิตลำบาก กลัวเสียหน้า กลัวไม่มีใครยอมรับหรือยกย่อง เป็นต้น หรือเกิดความสังเวชใจ จนจิตเข้าใจและยอมรับไตรลักษณ์ได้(ภาวนามยปัญญา) ก็จะปล่อยวาง หมดทุกข์ไปตามลำดับ
7. ในการเรียนรู้ ครูอาจารย์เป็นแต่เพียงผู้แนะนำ ชี้แนะ ให้รู้คุณรู้โทษและอบรมให้รู้จักควบคุมตัวเอง ไม่ตามใจตนเอง แต่จะได้ผลมากน้อยขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติเอาจริงตั้งใจจริงของผู้นั้น
8. ในโลกนี้ทุกสรรพสิ่งล้วนไม่มีคุณ มีโทษ มีดี มีชั่ว มีประโยชน์ หรือไร้ประโยชน์ ไม่มีระบบการปกครองใดดีที่สุด ไม่มีสิ่งใดดีที่สุด หรือเลวที่สุดต่อมนุษย์ ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจของมนุษย์เองที่ไปกำหนด หรือต้องการ หรือรับรู้ ยอมรับสิ่งนั้นมันเอง (สำหรับทางโลก ตัวตัดสินสิ่งเหล่านี้ คือเป้าหมายที่มนุษย์ หรือสังคมนั้นต้องการ)
9. พุทธธรรมไม่สามารถเป็นปรัชญา หรือเป้าหมายของการศึกษาใดๆได้เพราะมีหลักการและจุดมุ่งหมายที่ไม่เหมือนกัน แต่เราสามารถประยุกต์วิธีการฝึกอบรมแบบพุทธศาสนาเข้ากับการจัดการเรียนการสอน หรือวิธีการจัดการศึกษาของเราได้
แผนภูมิการจัดการศึกษาไทยตามแนวพุทธศาสนา
กระบวนการจัดการศึกษา
|
พุทธศาสนา
|
การศึกษาไทยตามแนวพุทธศาสนา
|
1. ความหมายของการศึกษา
(Meaning of Education)
|
การพัฒนาชีวิตเพื่อฝึกจิตใจ
ให้มี “...สติ และ ปัญญา…”มากยิ่งขึ้น
|
การฝึกฝนพัฒนาจิตใจ ความคิดให้มีศักยภาพและสมรรถภาพในการดำรงชีวิต
|
2. เป้าหมายสูงสุดทางการศึกษา
(Aims of Education)
|
นิพพาน ชีวิตที่พ้นทุกข์หมดปัญหาไม่เวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป
|
เพื่อบูรณาการองค์ความรู้ และชีวิต
ไปใช้ให้มีความสุข ปัญหาชีวิตน้อยลง
|
3. แนวนโยบายพื้นฐานการศึกษา
(Education policy)
|
ไตรสิกขา
ฝึกจิตตั้งใจงดเว้นสิ่งที่เป็นโทษ(ศีล)
ฝึกจิตให้ตั้งมั่น, สงบ(สมาธิ)
ฝึกจิตให้พิจารณาไตรลักษณ์(ปัญญา)
เพื่อขจัดอวิชชา ตัณหา
|
ต้องพัฒนา :
1. ความรู้ (Cognitive Domain)
2. จริยธรรม (Affective Domain)
3. ศักยภาพ และ 4. สมรรถภาพ (Psycho -motor Domain Taxonomic System
|
4. หลักการ
(Method of Education)
|
ควรออกบวชใช้ชีวิตแบบภิกษุ เพื่อฝึกสติ-ปัญญาพิจารณาชีวิตตามหลักไตรลักษณ์ 3 (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) และหลักอริยสัจ4
1. ทุกข์ รู้ปัญหา รู้ทุกข์
2. สมุทัย รู้สาเหตุของปัญหา
3. นิโรธ รู้การแก้ปัญหา
4. มรรค รู้วิธีการแก้ปัญหา
|
1. ต้องทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และได้พัฒนาตนเองอย่างเต็มที่ตามศักยภาพและธรรมชาติของตัวเองด้วยตนเอง
2.ทุกสิ่งที่เรียนรู้ต้องยืดหยุ่นได้ตามความพร้อมหรือแรงจูงใจทุกเวลาและทุกสถานการณ์
3.ต้องสามารถบูรณาการทุกสิ่งรอบตัวให้เกิดการเรียนรู้ในชีวิตจริง
4. ต้องทำให้ผู้เรียนเชื่อมั่นตนเอง มีวินัยในตัวเอง
|
5. หลักสูตร (Curriculum)
|
· คันถธุระ และวิปัสสนาธุระ ตามแนวทาง
- โพธิปักขิยธรรม 37
- มงคล 38
- อนุปุพพีกถา
- สมถกัมมัฏฐาน 40
- วิปัสสนากัมมัฏฐาน 37
|
1. มีเป้าหมาย / ตัวชี้วัดที่แสดงถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ทั้งความรู้ ทักษะ สมรรถนะ และศักยภาพให้กับผู้เรียนอย่างชัดเจน
2.เน้นให้ผู้เรียนรักษาหรือพัฒนาสิ่งที่มีคุณค่าของสังคมไทย/ท้องถิ่นตนเอง และรู้เท่าทันสังคมโลก
3. เน้นการบูรณาการ, สร้างองค์ความรู้, ผลิตผลงาน/นวัตกรรม, พัฒนาทักษะการคิด, ทักษะชีวิต,ทักษะกระบวนการเรียนรู้/การทำงาน
|
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/492342
เขียนเมื่อ
6 กันยายน 2555 | อ่าน
3913
เขียนโดย
admin